|  |    ในการทำงานในองค์กรใด ๆ ก็ต้องมีระดับชั้น (Hierarchies) ในตำแหน่งชั้นต่าง ๆ ที่ 
  เรามักจะได้เห็นมุมมองจากผู้ใต้บังคับบัญชา (Subordinates) ที่มองหัวหน้าเสมือนจากล่างขึ้นบน (Bottom up) เช่น อยากเห็นทิศทาง วิสัยทัศน์ การสอนงาน การวิเคราะห์แก้ปัญหางานให้  หรือ  หัวหน้าเองก็มองจากบนลงล่าง (Top down) ที่คาดหวัง เช่น พร้อมในการทำงาน ตรงต่อเวลา และ ระเบียบวินัย เร็วในการนำเสนองาน และ หากมีปัญหาก็พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาให้ตัดสินใจได้ทันท่วงที เป็นต้น 
  อย่างไรก็ตามพื้นฐานของคนเรามี ทัศนคติ (Attitude) การเรียนรู้ (Learning)  และ  ประสบการณ์ (Experiences) ที่ต่างกัน ดังนั้นไม่ว่าคนนั้น ๆ จะสวมหมวกเป็น "หัวหน้า"  หรือ  "ลูกน้อง" ของใครบางคน ก็ย่อมมีความต่างกัน  และ เรียกว่าเป็น "ทรัพย์สินเฉพาะตน (Individual Asset)"  และ อาจจะมีประโยชน์ต่อองค์กรมาก หรือ น้อยก็ได้ แตกต่างเฉพาะตน 
  ดังนั้น นอกเหนือจาก เงินทุน ระบบ เครื่องจักร เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมก็ตาม ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ และ เป็นหัวใจขับเคลื่อนก็คือ "คน" นี่เอง ที่เป็นที่ยอมรับโดยกว้างเรียกได้ว่าเป็น "ทุนมนุษย์ (Human Capital)" ซึ่งหมายถึง หนึ่งในต้นทุนที่สำคัญขององค์กรนั่นเอง 
  บุคลากรจะมีประโยชน์ 3 ด้านของทุนมนุษย์ให้กับองค์กร 
  1) ทุนทางปัญญา (Intellectual Capital) 
  ที่เปรียบเสมือน "ทุนในตนเอง" ให้กับองค์กร ได้แก่ ความรู้ ทักษะ  และ  ประสบการณ์ ในด้านต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับงานโดยตรง (Job Content)  หรือ  ความรอบรู้เรื่องต่าง ๆ สัมพันธ์กับงาน (Job Context) 
  -มุมมอง Bottom up อยากเห็นหัวหน้า ที่มีความเฉลียวฉลาด มีวิสัยทัศน์ สามารถมีความรู้ที่ถ่ายทอดให้ทุกคนมีศักยภาพสูงขึ้นได้ 
  -มุมมอง Top down ก็คาดหวังทีม ที่พร้อมเรียนรู้ พัฒนาตนตามบริบทของเนื้องาน และ สิ่งที่องค์กรต้องการเดินไป 
  2) ทุนทางสังคม (Social Capital) 
  ซึ่งหมายถึง "เครือข่าย" ที่คนนั้นมีความสัมพันธ์ กับคนในสังคมโดยรอบ ทั้งที่เกี่ยวกับงาน  และ  วงกว้างที่สามารถนำมาต่อยอดเชื่อมกับงานได้ 
  -มุมมอง Bottom up อยากเห็นหัวหน้าที่มีเครือข่ายกว้างไกล สามารถส่งเสริมช่วยเหลือให้หน่วยงานตน/ องค์กร เชื่อมสัมพันธ์ให้งานราบรื่น ก้าวหน้า กับส่วนต่าง ๆ ทั้งใน และ นอกองค์กรได้ดี 
  -มุมมอง Top down ที่คาดหวังให้ทีมสามารถทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน สามารถเชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝ่ายต่าง ๆ ทั้งในแนวดิ่ง (Vertical Relation) แนวนอน (Horizontal Relation)  หรือ  ทแยงมุม (Diagonal) ในองค์กร  และ รวมถึงนอกองค์กรบางส่วนได้ดี 
  3) ทุนทางอารมณ์ (Emotional Capital) 
  ที่เป็นทุนเกี่ยวกับ "การจัดการอารมณ์ (Emotional Management)" ที่จะแสดงออกถึง การจัดการในอารมณ์ ความนิ่ง ความมั่นคงทางใจ การอดกลั้น การยืดหยุ่นยอมรับอารมณ์คนรอบข้าง  และ  การจัดการสิ่งที่ท้าทายความรู้สึกนึกคิดได้ 
  -มุมมอง Bottom up ที่เห็นภาวะผู้นำ (Leadership) ที่พร้อมนำ นิ่ง  และ ท้าทายต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบอารมณ์  และ พร้อมเป็นที่ปรึกษาได้ 
  -มุมมอง Top down ที่คาดหวังทีมที่มีจิตใจที่พร้อมทำงานด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ 
  นอกเหนือจากตัวตั้งในการ "นำคน" เข้าสู่องค์กรโดย "การจัดการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management; HRM) ที่หมายถึง 
  - การวางแผน และ กลยุทธ์กำลังคน (Planning & Strategy Workforce) 
  - การสรรหา คัดเลือก  และ แต่งตั้ง (Recruitment, Selection, and Placement) 
  - การจัดการระบบเงินเดือน และ สวัสดิการ (Payroll & Welfare Management) 
  - การประเมินผลงาน (Performance Appraisal) 
  ในองค์กร จำเป็นจะต้องมี "การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Development) จึงจะตอบสนองต่อ "การพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital Development)" ที่แท้จริง ซึ่งได้แก่ 
  1) การพัฒนาความรู้ (Knowledge) 
  2) การพัฒนาทักษะคน (People) 
  3) การพัฒนากระบวนการของงาน (Process) 
  4) การพัฒนาแนวคิดร่วมแรงร่วมใจ (Collaboration) 
  ซึ่งการพัฒนา 4 ด้านนี้ สามารถทำผ่านรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง การประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสัมมนา การฝึกปฏิบัติ การซักซ้อมร่วมกัน การทำกรณีศึกษา การวิเคราะห์จากตัวอย่าง การทดลองในการเสมือนจริง การวิจัยร่วมกัน การใช้เอกสาร และ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการพัฒนา เป็นต้น  และ สามารถดำเนินการได้ทั้งภายในองค์กร  หรือ ภายนอกองค์กร ทั้งใช้ผู้ดำเนินรายการโดยคนใน  หรือ  ผู้ทรงคุณวุฒิ/ ความรู้ จากภายนอกด้วยได้ 
  วันนี้ท่านอยู่ในองค์กรที่ Bottom up  และ  Top down ที่มอง และ ให้ความสําคัญกับทุนมนุษย์มากน้อยเพียงใด  และ มีระบบ HRD ที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ หรือ ไม่? 
  วันนี้ 02-02-2020 ฝากพิจารณา เพื่อวิเคราะห์ทุนมนุษย์ของตนเอง และ องค์กรที่ท่านอยู่ว่าเป็นเช่นใด 
 ด้วยความปรารถนาดี 
  ผศ.ดร.กฤษฎา ตันเปาว์
  2 กุมภาพันธ์ 2563
   |